วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

บวบ

บวบ








บวบ


เป็นพืชผักที่รับประทานง่ายเมื่อนำมาปรุงอาหารจะนิ่มเป็นพืชผักที่อุดมแร่ธาตุนานาชนิดแม้วิตามินจะน้อยไปเมื่อเทียบกับผักอื่นๆแต่ไม่ค่อยมสารปนเปื้อนเนื่องจากมีแมลงรบกวนน้อยเป็นเถาไม้เลื้อยเหมาะสำหรับปลูกเป็นพืชผักสวนครัวมีรสหวานบางลูกจะมีรสขมเพราะว่ามีงูเลื้อยผ่านทำให้บวบมีรสขมสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายประเภท เช่น ลวกจิ้มน้ำพริกหรือนำไปแกง เคล็ดลับการรักษาคุณค่าทางอาหารของบวบ คือ เมื่อปลอกเปลือกไม่ควรปลอกให้เกลื้องเกลาควรเหลือเล็กน้อย นานๆจะชินไปเอง ลักษณะพิเศษ คือ ทนแล้งทนฝนไม่มีโรคและแมลงรบกวน ข้อควรระวังแมลงชอบกัดยอด


ใช้วิธีปลูกเช่นเดียวกับถั่วฝักยาว คือ ทำให้ได้ผลผลิตมากเก็บได้นานต้องเก็บทุกๆ2-3วันเก็บได้1เดือน-1เดือนครึ่งควรปลูกเป็นพืชฃผักริมรั้วการปลูกควรปลูกแบบเลื้อยไปตามดินแต่ผลผลิตไม่ดี คือ ผลบวบที่ได้จะคดงอระยะเวลาในการเก็บสั้นลงเก็บได้เพียง4-5ครั้งเท่านั้น

ตำลึง

ตำลึง





ตำลึง


เป็นผักที่คนไทยนิยมบริโภคยอดเป็นเวลานานเป็นผักที่มีรสหวานอร่อยมีกลิ่นหอมสามารถนำไปทำแกงจืดใส่หมูสับ ลวกจิ้มน้ำพริกหรือผัดไฟแดงอุดมไปด้วยเบต้า-เคโรทีนเมื่อรับประทานไปจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอมีประโยชน์ต่อตาป้องกันการเกิดมะเร็งและรักษาโรคหัวใจเป็นไม้เลื้อยเหมาะสำหรับปลูกรอบๆรั้วบ้านหรือทำเป็นซุ้มให้ตำลึงเลื้อยผ่านลักษณะของใบจะสวยยังใช้เป็นไม้ประดับตกแต่งได้อีกด้วยในส่วนการบำรุงรักษาไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะว่าเรามักเห็นขึ้นอยู่ตามข้างถนนดดยสภาพธรรมชาติค่อนข้างทนทานสามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมขึ้นง่ายตายยากถ้าอยากให้งอกงามดียอดอวบงามมีเก็บไว้ให้กินนานควรเอาใจใส่ดูแลโดยการรดน้ำพรวนดินแล้วใส่ปุ๋ยคอก





ตะไคร้

ตะไคร้




ตะไคร้


เป็นผักที่น่าจะนำไปปรุงอาหารได้หลายชนิดมีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัวช่วยไม่ให้ท้องอืดและแน่นท้องช่วยลดไขมันตามส่วนต่างๆของร่างกายเป็นผักที่มีอายุการใช้งานนานมีระบบรากฝอยจับผิวดินแน่น มีการตัดแต่งใบเนื่องจากว่าถ้าปล่อยไว้นาน ใบจะเกะกะ ดังคำกล่าวที่ว่า ต้นเท่าครกใบปรกดิน

เมื่อต้นตะไคร้เจริญเติบโตได้เต็มที่แล้วใช้มีดตัดโคนต้นตะไคร้ให้เสมอระดับดิน เลือกต้นที่เบียดกันออก ทำให้ได้ความสวยงามของกอที่เหลืออยู่ และยังมีกอเหลืออยู่ให้รับประทานได้อีก



สะระแน่

สะระแน่


สะระแหน่


เป็นพืชผักที่ใช้ส่วนของใบ และยอดอ่อนเพื่อปรุงอาหารประเภท ยำ ลาบ พล่า ต้มยำ สามารถดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้ ช่วยปรุงกลิ่นให้น่ารับประทาน อุดมไปด้วยวิตามินซีไม่เป็นหวัดง่าย และกลิ่นมี่หอม จะช่วยให้ความคิดแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง จัดเป็นไม้เลื้อยคลุมดิน ใบมีลักษระป้อมๆสีเขียวสด ขอบใบย่น ชอบดินร่วนซุย ปลูกง่าย งอกงามรวดเร็ว ถ้าปลูกดูแลรัษาดีๆจะยิ่งงอกงามและเก็บใบได้เร็วยิ่งขึ้น


ในการปลูกเลือกกิ่งสะระแหน่ที่ไม่แก่หรืออ่อนจนเกินไป ตัดยอดของลำต้นยาวประมาณ 4-5 นิ้ว ปักจิ้มลงในแปลงเพาะชำ หรือแปลงปลูก ก่อปักชำต้องรดน้ำให้ชุ่ม ปักให้เอนทาบกับดิน รดน้ำให้ชุ่มเพื่อรักษาความชื้นให้หน้าดิน เมื่อแกลบผุก็จะกลายเป็นปุ๋ย ต้องการดินร่วนซุยแต่ไม่ต้องแสงแดดมากนัก ปลูกในที่ร่มรำไร เก็บผลผลิตได้โดยใช้มีดคม ๆตัดส่วนยอด เมื่อตัดไปไม่นานก็จะแตกยอดใหม่


มะเขือเทศ

มะเขือเทศ


มะเชือเทศ


สรรพคุณมะเขือเทศที่ควรรู้ คือ มีสารประเภทแอนตี้ออกซิ้แดนท์ เป็นสารต่อต้านมะเร็ง อุดมไปด้วยกรดอะมิโนโดยเฉพาะตัวที่เป็นตัวเดียวกับที่มีอยู่ในผงชูรสช่วยในการเพิ่มรสชาติของอาหาร


มะเขือเทศที่ปลูกใยลักษณะเป็นพืชสวนครัว ต้องเลือกพันธุ์ที่ปลูกเพื่อรับประทานผลสด มีทั้งผลเล็กและผลโต ผลเล็กจะนิยมผลสีชมพูมากกว่าสีแดง ผลโตนั้นจะนิยมรูปคล้ายแอปเปิ้ล เมื่อสุกจะมีสีแดงจัดเนื้อ หนาแข็ง พันธุ์ที่นิยมปลูก คือ พันธุ์สีดา พันธุ์สีดาห้างฉัตร พันธุ์เอสวีอาร์ดีซี และ พันธุ์แอล 22


การเตรียมดินเพื่อที่จะปลูกนั้นต้องพิถีพิถัน เนื่องจากที่มะเขือเทศต้องการดินที่

มะเชือเทศต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นต้องมีการให้น้ำตั้งแต่เริ่มปลูกถึงผลเริ่มแก่ คือ ผลเริ่มเปลี่ยนสี หลังจากนั้นจึงลดน้ำเพื่อป้องกันผลแตก ควรแต่งกิ่งให้เหลือเพียง 1-2 กิ่งต่อก้าน เพื่อให้ได้มะเชือเทศทีมีผลใหญ่ การเก็บเกี่ยวผลผลิตเริ่มเมื่อมะเขือเทศมีอายุประมาณ 70-90 วัน ขึ้นอยู่กับพันธุ์ อายุตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว





พริกขี้หนู

พริกขี้หนู



พริกขี้หนู


ในการปรุงอาหารปร ะจำวันของคนไทย พริกเป็นเครื่องปรุงรสที่นิยมมากอันดับหนึ่ง เพราะสามารถชูรสให้มีความอร่อยขึ้น มีสีสันสวยงาม และรสชาติถูกปากคนำไทยมาช้านานนอกจากรสชาติที่เผ็ดร้อนแล้วยังมีประโยชน์อื่นๆคือ มีสาน แคปไซซิน เป็นสารตัวหนึ่งที่มีหน้าที่จับสารก่อมะเร็งและช่วยให้เลือดในร่างกายไหลเวียนได้ดี ช่วยไม่ให้เลือดจับตัวเป็นลิ่มขวางทางเลือด


พริกขี้หนูมี 2 ประเภท


1. พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ ขนาดของผลยาวประมาณ 2-5 เซนติเมตร มีหลายพันธุ์ที่นิยมปลูกได้แก่ ห้วยสีทน หัวเรือ จินดา ยอดสน บ้านใน ไส้ปลาไหล สร้อย นิ้วมือนางน้อยผลยาว เดือยไก่


2. พริกขี้หนูเม็ดเล็ก ขนาดของผลยาวต่ำกว่า 2 เซนติเมตร พันธุ์ปลูกได้แก่ ขี้หนูสวน ขี้หนูหอม กะเหรี่ยง


การปลูกพริกในลักษณะเป็นผักสวนครัวนิยมการหว่านเมล็ดลงในแปลงปลูก ถ้าปลูกในลักษณะการค้าจะต้องมีการเพาะกล้า จึงย้ายลงแปลงปลูก


เทคนิคการดูแลรักษาพริก


พริกเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำ ถ้ามีควมชื้นสูงควรพรวนดินเพื่อให้น้ำระเหยออกไป กรณีที่ดินแห้งกินไปและไม่อาจให้น้ำได้อย่างสม่ำเสมอ ควรใช้วัสดุปลูกคลุมดินเพื่อช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นแก่ดิน


การบ้องกันวัชพืช


การบ้องกันวัชพืชต้องทำอย่างระมัดระวังเนื่องจากพริกมีระบบรากที่แผ่กว้างอยู่ในระดับผิวดิน ถ้าทำอย่างรุนแรงอาจกระทบกระเทือนต่อระบบราก ควรกำจัดวัชพืชตั้งแต่เป็นต้นอ่อน


การเก็บเกี่ยว


พริกจะเริ่มออกดอกหลังจากเป็นกล้าอ่อนประมาณ 60-70 วัน และเก็บผลสุกได้เมื่ออายุ 90-100วันการเก็บเกี่ยวจะทำได้เมื่อมีอายุ 5-7 วัน ถ้ามีการบำรุงดี และให้น้ำอย่างเพียงพอ พริกก็จะมีอายุเก็บกิน 1ปี


แตงกวา


แตงกวา




แตงกวา


เป็นพืชที่อุดมไปด้วยน้ำ และช่วยในการขับปัสสาวะ ให้ความสดชื่นผิวสวย เชื่อว่าเมื่อนำมาแปะหน้าจะทำให้หน้าขาวผ่อง และอ่อนนุ่ม เป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับแตงโม บวบ ฟักทอง เป็นผักที่มีระบบรากตื้น เมื่อหยอดเมล็ดแล้วต้องรดน้ำทันที จนเริ่มออกอก จึงลดลงเหลือวันละ 2-3 ครั้งต่อวัน แตงกวาที่ขาดน้ำจะมีรสขม รับประทานไม่อร่อย


การเก็บเกี่ยวมาปริโภคหลังจากการปลูกได้ประมาณ 30-40 วัน ขึ้นอยู่กับพันธุ์แตงกวา เทคนิคการเก็บควรเลือกแตงกวาที่อ่อน โดยสังเกตจากมีนวลสีขาวติดอยู่ ทำให้ได้เนื้อแตงกวาที่แน่นกรอบ รสชาติอร่อย ทยอยเก็บวันเว้นวัน ไม่ควรปล่อยให้แก่คาต้น เพราะระยะการเก็บผลผลิตสั้นกว่าปกติ ถ้ามีการรักษาอย่างถูกวิธีผู้ปลูกจะเก็บได้นาน 1 เดือน

ถั่วฝักยาว

ถั่วฝักยาว




ถั่วฝักยาว


เป็นผักที่อุดมไปด้วยกากใยไฟเบอร์มีคุณสมบัติในการช่วยลดคอเรสเตอรอลในเส้นเลือดอุดมไปด้วยวิตามินซีดูดซับธาตุเหล็กได้ดีการรับประทานดิบๆจะทำได้รับวิตามินซีมากก่อนปลุกจะต้องมีการฉีดยาป้องกันเพราะเป็นผักที่หนอนและแมลงชอบนิยมปลูกไว้ริมรั้วบางรายปลูกไว้ไร้ค้างเกิดจากการผสมระหว่างถั่วพุ่มกับถั่วฝักยาววัตถุประสงค์ เพื่อให้มีลำต้นแข็งแรง ฝักยาว

อายุการเก็บเกี่ยวประมาณ55-75วันขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูกเก็บโดยใช้มือเด็ดหรือกรรไกรตัดทยอยเก็บทุกๆ2-4วันโดยทั่วไปจะเก็บได้10-20ครั้งหลังจากการเก็บฝักสดชุดแรกควรพ่นสารป้องกันแมลงและหนอนมาเจาะทำลายต้นและดอก

กะหล่ำดอก


กะหล่ำดอก




กะหล่ำดอก


เป็นผักที่ได้รับความนิยมอย่างมากมีรสชาติอร่อย กรอบ หวาน น่ารับประทาน ใช้ผัด ใช้แกง เป็นเครื่องเคียงบนจานเสต็กทำให้ได้รับวิตามินซีสูง ป้องกันการเกิดไข้หวัด


ปลูกในฤดูหนาวยิ่งหนาวมากจะให้ผลผลิตดีปัจจุบันมีทั้งฤดูแล้งและฤดูฝน อากาศช่วงกลางคืนเย็นพอสมควรเป็นผักที่ทรงพุ่มใหญ่ก่อนถอนก้านที่จะปลูกต้องถอนในตอนเช้าก่อนแดดจัดเมื่อดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ5-7เซนติเมตรให้รวบปลายใบผูกเชือกไว้หลวมๆดอกจะขาวน่ารับประทานประมาณ5-7วันก็เก็บรับประทานได้เมื่อตัดต้องให้มีใบหลุดมา2-3ใบเพื่อจะไก้เก็บไว้ได้นาน


กะหล่ำปลี


กะหล่ำปลี




กะหล่ำปลีเป็นผักที่มีคุณลักษณะหลายประการ คือ ให้คุณค่าทางอาหารสูงรสชาติดีรับประทานได้ทั้งดิบและสุก และมีอายุการเก็บรักษาได้นานวัน นอกจากคุณลักษณะทางกายภาพแล้ว กะหล่ำปลีเป็นพืชผักที่อุดมไปด้วยวิตามินซี รวมทั้งยังมีสารต้านการก่อตัวของโรคมะเร็งด้วย ซึ่งการรับประทานกะหล่ำปลีสดนั้นทำให้ได้รับวิตามินซีอย่างเต็มที่ เนื่องจากวิตามินซีนั้น สูญเสียได้ง่ายจากการได้รับความร้อน


สมัยก่อนกะหล่ำปลีปลูกได้ดีเฉพาะในฤดูหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมามีการคิดค้นพันธุ์ทนร้อนทำให้ในปัจจุบันมีการปลูกกะหล่ำปลีได้ดีทุกฤดูกาล พันธุ์กะหล่ำปลีบ้านเรามีหลายพันธุ์แยกออกเป็น3กลุ่ม คือ กะหล่ำปลีธรรมดา กะหล่ำปลีชนิดนี้มีผู้ปลูกมากเป็นพันธุ์ทนร้อน ผู้นิยมบริโภคมากมีหลายลักษณะทั้งหัวกลม หัวแป้น หัวแหลมรูปหัวใจ มีสีแดงทับทิมชอบอากาศหนาวเย็น กะหล่ำปลีใบย่นลักษณะผิวใบจะหยิกย่น เป็นคลื่นชอบอากาศหนาวใช้เวลา90-120วันในการเก็บเกี่ยว


เพาะลงในกระถางต่างๆหว่านลงในแปลงให้กระจายและหว่านผสมปุ๋ยคอกกลบหน้าบางๆใช้ฟางหรือหญ้าแห้งลงอีกทีรดน้ำให้ชุ่มเมื่อมีอายุ3-4สัปดาห์จึงย้ายไปปลูกในแปลงปลูก ตากดิน7แดด เมื่อดินแห้งแล้วเก็บวัชพืชย่อยดินให้ร่วนซุย ผสมปุ๋ยคอกให้เท่ากัน


เคล็ดลับในการตัดกะหล่ำปลีคือ เวลาจะรับประทานตัดเอาแต่เฉพาะหัวกลมออกมาเพราะต้นตอที่เหลือจะแตกแขนงหัวใหม่ให้เก็บกินได้อีก



ต้นหอม

ต้นหอม



หอมหัวเล็ก หอมหัวแดง


Boiling Onion, Shallot ;
Allium Ascalonicum L., Alliaceae


ส่วนที่ใช้ หัว ลำต้น ใบ


ส่วนประกอบ คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก
วิตามิน บี1 / บี2 / ไนอาซิน / ซี
กากใบและใบสด มีสารพวกฟลาโวนอยด์ เช่น เคอเซติน สารสปิเรโลไซด์
และสารประกอบอินทรีย์กำมะถันหลายชนิด สารที่สำคัญได้แก่ เมทิล
โปรฟิลไดซัลไฟด์ ( methyl propyl disulfide) และ อัลลิลลิกไดซัลไฟด์
(allylic disulfide)

แก้ไข้ขับลม ขับเหงื่อ แก้ปวดศีรษะ ลดอาการคัดจมูกแก้โรค
หลอดลมอัดเสบเรื้อรัง ช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยให้
เลือดไม่อุดตันง่าย ช่วยเพิ่มโคเลสเตอรอลชนิด ดี HDL) มีสารต้าน
มะเร็ง และมีสารต้านอนุมูลอิสสระที่ดีมาก



หัว บำรุงเส้นผมให้งอกงาม ป้องกันรังแค บรรเทาอาการผมร่วง ผิวหนัง
สดชื่น แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ ขับเสมหะ ผสมเหล้าพอกบริเวณถูกแมลง
กัดต่อย

หอมใหญ่ หอมหัวใหญ่ หอมฝรั่ง


หอมใหญ่ หอมหัวใหญ่ หอมฝรั่ง






Onion ; Allium cepa L.
Alliaceae


ส่วนที่ใช้ หัว


ส่วนประกอบ มีสารจำพวกอัลลิลลิกไดซัลไฟด์ (allylicdisulfides)
มีสารสำคัญเช่นเดียวกับหอมหัวเล็ก แต่มีปริมาณสารต่างๆน้อยกว่า
หอมหัวเล็ก


สรรพคุณและวิธีใช้ ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ น้ำคั้นจากหัวช่วยลดการ
อักเสบ ลดความดันเลือด ช่วยลดและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
เพิ่มปริมาณโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ช่วยลดระดับไขมันในเลือด
มีสารต้านมะเร็ง
-
ให้กินสดๆวันละประมาณ 1/4 หัว 2-4 ครั้งต่อวัน ควรทุบและสับให้
ละเอียดก่อนทาน ทุกวันเป็นประจำจะเห็นผลในการช่วยควบคุมระดับ
น้ำตาลและ ไขมันในเลือด
-
ช่วยขจัดสารตะกั่วและโลหะหนักที่ปนเปือนกับอาหารแล้วสะสมอยู่
ในร่างกาย
-
แม่ที่กำลังให้นมลูกคสรงด เพราะจะทำให้เด็กร้องไห้แบบโคลิกได้
-
เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งและเบาหวาน ใช้ทานเป็นประจำ





โหระพา

โหระพา





Sweet Thai basil ;
Ocimum basilicum L.
Lamiaceae



ส่วนที่ใช้ ใบ ผล และราก


ส่วนประกอบ คาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร แคลเซี่ยม
ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามิน เอ / บี1 / บี2 / ซี
น้ำมันหอมระเหยต่างๆเช่น โอซิมีน ( Ocimine) ไพนีน (pinene)
ยูคาลิปตอล (eucalyptol) เมล็ดมีเมือกหุ้มคล้ายเมล็ดแมงลัก


สรรพคุณและวิธีใช้ ใช้เป็นยาขับลม ช่วยย่อยอาหาร
รักษาโรคหวัด ปวดศีรษะ ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องร่วง แก้อาการ
คลื่นไส้อาเจียน
-
ผลแก่ ใช้กินเป็นยาระบาย
-
ทั้งต้น มีสารต้านมะเร็ง แก้สิว แก้ไข้ แก้หวัด แก้ไอ
แก้พิษฝี ช่วยย่อยและเจริญอาหาร ช่วยกระตุ้น
การสร้างภูมิคุ้มกัน
-
นำใบแห้งมาต้มประใาร 2-3 ช้อนชา กับน้ำเดือด 1 ถ้วย
ดื่มวันละ 3 ถ้วยจะช่วยสร้างภูมิต้านทานต่อโรค
ภัยไข้เจ็บได้


* เด็กที่ปวดท้อง ใช้ใบโหระพาประมาณ 20 ใบชงกับน้ำ
ร้อน ทิ้งไว้สักครู่นำมาให้เด็กดื่ม ปลอดภัยกว่าการใช้ยา
ขับลมที่มีส่วนผสมของอัลกอฮอล์

* น้ำมันโหระพาสกัด ยังมีคุณสมบัติฆ่าและไล่แมลงวัน
และยุงได้




Blogger Templates by Isnaini Dot Com. Powered by Blogger and Supported by Urban Designs